ลองจินตนาการดูสิว่า แค่คลิกเดียวก็สร้างเครื่องมือที่หมอฟันต้องการได้เลย ฟังดูเหมือนหนังไซไฟใช่ไหม แต่ตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นจริงแล้ว
ตอนนี้เครื่องพิมพ์ 3D ไม่ได้พิมพ์แค่พลาสติก แต่ยังพิมพ์เซรามิก โลหะ และแม้กระทั่งเซลล์มีชีวิตได้แล้ว สำหรับหมอฟัน จุดสูงสุดที่ใฝ่ฝันคือการพิมพ์ฟันจริง ๆ ออกมาเลย แต่ที่ทำได้แล้วในตอนนี้คือ
- พิมพ์โมเดลฟันและขากรรไกรของคนไข้
- ใช้โมเดลนี้วางแผนการรักษา และช่วยให้คนไข้เข้าใจง่ายขึ้น
- ใช้ฝึกนักศึกษาทันตแพทย์ด้วยโมเดลเสมือนจริง
- สร้างเครื่องมือเฉพาะบุคคล เช่น ตัวนำทางผ่าตัด
- พิมพ์ครอบฟัน ฟันปลอม รีเทนเนอร์ หรืออุปกรณ์จัดฟันแบบใส
- และในอนาคตใกล้ ๆ คือการพิมพ์เนื้อเยื่อเหงือกและกระดูกเพื่อใช้ปลูกถ่าย
แล้ว 3D printing ใช้ยังไงในคลินิกทันตกรรม?
- ผ่าตัดในช่องปาก
พิมพ์โมเดลหน้าหรือขากรรไกรของคนไข้เพื่อวางแผนและฝึกก่อนผ่าตัดจริง ทำให้แม่นยำขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น - ทำฟันปลอม หรือรากฟันเทียม
ใช้พิมพ์โมเดลฟันและเหงือก เพื่อออกแบบฟันปลอมที่เหมาะเป๊ะกับแต่ละคน ช่วยลดเวลารักษา - งานจัดฟัน
พิมพ์รีเทนเนอร์ใสที่ดูไม่เหมือนจัดฟันเลย ใช้ง่ายกว่า และไม่ทำร้ายรากฟันเหมือนเหล็กจัดฟันแบบเก่า - รักษารากฟัน
ใช้การสแกนสามมิติเพื่อวางแผนเจาะรากฟันอย่างแม่นยำ พร้อมพิมพ์เครื่องมือช่วยนำทาง ลดระยะเวลารักษา - รักษาเหงือกและเนื้อเยื่อ
ใช้พิมพ์ตัวนำช่วยตัดเหงือกให้แม่นกว่าเดิม และในอนาคตอาจพิมพ์เหงือกใหม่มาปลูกถ่ายได้ด้วย

การฝึกนักศึกษาทันตแพทย์ก็เปลี่ยนไป
เดิมทีนักเรียนฝึกบนโมเดลธรรมดาที่ไม่เหมือนของจริงเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ 3D printing ทำให้ได้โมเดลที่มีพื้นผิว ความแข็ง-นุ่ม และรูปร่างคล้ายของจริงมากขึ้น ช่วยให้ฝึกได้เหมือนของจริงมากขึ้น ลดโอกาสผิดพลาดเมื่อไปรักษาคนไข้จริง
3D printing กำลังเปลี่ยนแปลงวงการทันตกรรมครั้งใหญ่ ทำให้การรักษาแม่นยำขึ้น สะดวกขึ้น และเหมาะกับแต่ละบุคคลมากขึ้น และสำหรับนักศึกษาแพทย์ ก็ช่วยให้ได้ฝึกในสถานการณ์เสมือนจริงก่อนลงสนามจริง วันหนึ่งในอนาคต การพิมพ์ฟันใหม่ทั้งซี่อาจจะเกิดขึ้นได้แค่คลิกเดียว